ยอมรับรับโมโห เช็ดแล้วไม่ให้เงิน เด็กเช็ดกระจกรถ หัวร้อน ล่าสุด ตำรวจรวบตัวมาดำเนินคดีแล้ว เจ้าตัวยืนยันไม่มีอาวุธ ล้วงกระเป๋าแค่กลัวมือถือหล่น ก่อนหน้านี้ ข่าวเด็กเช็ดกระจกหัวร้อน พูดจาด่าทอ ขมขู่หาเรื่องคนในรถยนต์ ถูกเฟซบุ๊กแฟนเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 3 นำมาเปิดเผผยด้วยการโพสต์คลิปบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริเวณแยกแคราย ซึ่งขณะที่รถกำลังจอดติดไฟแดงอยู่ ได้มีเด็กเช็ดกระจกรถเดินมาขอเก็บค่าเช็ดกระจก แต่ระหว่างคนขับรถกำลังหยิบให้ เด็กเช็ดกระจกได้เอาสิ่งสกปรกป้ายที่กระจก เมื่อเรียกให้กลับมาเช็ด เด็กเช็ดกระจกถามว่าอยากตายหรือ ? พร้อมพยายามทำท่าหยิบอาวุธจากเอวด้านหลัง
ประเด็นนี้เมื่อมีการเผยแพร่เรื่องราวออกไป
ปรากฏ สังคมออกนไลน์ก็พากันวิจารณืถึงความปลอดภัยของผู้คนในบิรเวณดังกล่าวจำนวนมาก โดยความคืบหน้า ล่าสุด ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ร่วมกันจับกุมเด็กเช็ดกระจกคนดังกล่าวได้แล้ว ทราบชื่อ นายอนุชิต หรือ “มด บรรทึก” อายุ 29 ปี ชาวอ.เมือง จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยของกลาง น้ำยาเช็ดกระจก 1 ขวด ไม้เช็ดกระจก 1 อัน
จากการสอบปากคำ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา เด็กเช็ดกระจก อ้างว่าได้ขออนุญาตกับคนขับรถแล้วจึงลงมือบีบน้ำยาจากขวดแล้วใช้ไม้ถูกระจกให้จนเสร็จ แต่เมื่อจะเรียกเก็บเงินค่าเช็ดกระจก เจ้าของรถกลับบอกว่าไม่ได้ให้เช็ดและไม่จ่ายเงิน
เด็กเช็ดกระจก ยอมรับว่าตอนนั้นรู้สึกหงุดหงิดมาก เพราะอากาศร้อน ทำงานแล้วไม่ได้เงิน จึงเอาไม้ถูกกระจกป้ายหน้ารถกลับคืนไป สร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าของ จนเปิดประตูรถลงมาตะโกนต่อว่า โดยที่ตัวเองไม่รู้ว่าถูกถ่ายคลิปไว้
อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อเหตุได้กล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันไม่ได้พกอาวุธ ที่เห็นทำท่าล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุมก็เป็นโทรศัพท์มือถือที่กลัวจะหล่นเท่านั้น ตัวเองเป็นแค่คนขายพวงมาลัย ช่วยครอบครัวหาเงินเลี้ยงปากท้องได้วันละ 2-3 ร้อยบาท ไม่อยากจะไปมีเรื่องราวอะไรกับใคร เพราะเรียนมาน้อย
สำหรับความผิดของ เด็กเช็ดกระจกหัวร้อนรายนี้เบื้องต้นโดนตั้งข้อกล่าวหาว่า ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญต่อผู้อื่นในที่สาธารณะ มีโทษเปรียบเทียบปรับ 1,000 บาท และสั่งห้ามไม่ให้กลับมาเช็ดกระจกที่แยกแห่งนี้ โดยเด็ดขาด
อัยการเผย ศาลตัดสินจำคุก มนตรี รปภ. ข่มขืนลูกบ้าน เมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา เป็นระยะเวลา 10 ปี 10 เดือน สารภาพคงโทษเหลือ 5 ปี 10 เดือน นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ออกมาเปิดเผยความคืบหน้ากรณี นาย มนตรี ใหญ่กระโทก หัวหน้า รปภ.หื่น ของคอนโดมิเนียมย่านฝั่งธนบุรีบางแค ก่อเหตุข่มขืนลูกบ้านในคอนโด ย่านบางแค กทม.เมื่อกลางดึกวันที่ 3 ธ.ค.64 ดั่งที่รายงานไปก่อนหน้านี้
โดยพนักงานอัยการได้ คำสั่งฟ้อง 2 ข้อหาคือ 1.ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ 2.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และจากการตรสอบประวัติ พบว่า ผู้ก่อเหตุ เคยก่อเหตุกระทำชำเราผู้เสียหายรายอื่นมาก่อนเเล้ว ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ในขณะที่ยื่นฟ้อง นายสิทธิชัย พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 2 ได้ยื่นขอให้ศาลลงโทษจำเลยสถานหนัก พร้อมขอให้เพิ่มโทษตามกฎหมายเนื่องจากจำเลยกระทำผิดคดีนี้ซ้ำโดยระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี
ซึ่งทราบว่าวันนี้ศาลนัดสอบคำให้การเเละจำเลยรับสารภาพ โดยวันนี้ศาลอาญาธนบุรีมีคำพิพากษาให้จำคุกจำเลยรวมเพิ่มโทษตามคำขอของอัยการเเล้ว 10ปี 10 เดือน 20 วัน จำเลยให้การรับสารภาพคงจำคุก 5 ปี 5 เดือน 10 วัน
ครอบครัวของนักศึกษาเหยื่อ รับน้องโหดเสียชีวิตโคราช จ่อแจ้งความรุ่นพี่
ครอบครัวของน้องเปรมซึ่งเป็นเหยื่อ รับน้องโหดเสียชีวิตโคราช เตรียมเข้าแจ้งความรุ่นพี่ ชี้ทำเกินกว่าเหตุ เผยผลตรวจเลือดพบ น้องเปรม ติดโควิดด้วย จากกรณีที่เพจ ANTI-SOTUS ได้ออกมาเปิดเผยว่า น้องเปรม นักศึกษาเสียชีวิตจากกิจกรรมรับน้องของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และเชื่อว่าการเสียชีวิตครั้งนี้น่าจะถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตนั้น
ทางสำนักข่าว ไทยรัฐ ได้เดินทางไปยังบ้านของผู้เสียชีวิต ซึ่งจากการสอบถามคนในครอบครัวระบุว่า เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และเตรียมเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้ว
ด้าน นางณรัฐนันท์ ฐานศรีละหาน อายุ 46 ปี ญาติของน้องเปรมผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนได้เดินทางไปดูศพ และได้สอบถามเพื่อนของน้องเปรม ทราบว่าตอนแรกน้องเปรมก็อยู่กับเพื่อนๆ แล้วมีรุ่นพี่มาชักชวนให้ไปเตะบอล หรือเล่นกีฬา พวกน้องๆ ก็หลงเชื่อจึงได้ออกไป แต่มารู้ตัวหลังจากนั้นว่าเป็นการรับน้องในป่า แล้วมีการให้ดื่มสุรา
ก่อนที่พวกรุ่นน้องจะโดนรุ่นพี่ใช้หมัดต่อยเข้าไปที่หน้าอก ทำให้น้องเปรมฟุบลงกับพื้น หลังจากนั้นเพื่อนๆ ที่ไปด้วยกันได้หามน้องเปรมไปส่งโรงพยาบาล แต่ก็เสียชีวิตลงระหว่างทาง นอกจากนี้จากการตรวจเลือดพบว่าน้องเปรมติดเชื้อโควิดฯด้วย ซึ่งเหตุการณ์รับน้องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ครอบครัวรู้สึกรับไม่ได้ และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป